นับว่าเป็นข่าวดีของผู้ประกอบการจากข้อมูลกรมการค้าต่างประเทศรายงานว่า มูลค่าการค้าทางชายแดน ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมามูลค่าการค้ารวม 141,164 ล้านบาท ขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการค้าทางชายแดนกับ สปป.ลาว มีมูลค่าสูงสุด 25,959 ล้านบาท รองลงมาคือ มาเลเซีย 23,989 ล้านบาท เมียนมา 17,121 ล้านบาท และกัมพูชา 15,210 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ และน้ำตาลทรายขาว นอกจากนี้ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 ได้แก่ จีน เวียดนาม และสิงคโปร์ มีมูลค่าการค้ารวม 58,886 ล้านบาท ขยายตัว 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 24,958 ล้านบาท ขยายตัว 5.5% และการนำเข้า 33,928 ล้านบาท ขยายตัว 4.1% ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญได้แก่ ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ยางแท่ง TSNR และไม้แปรรูป เป็นต้น

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้การค้าทางชายแดนและผ่านแดนขยายตัว
การขยายตัวของการค้าทางชายแดนและผ่านแดนมาจากความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศไทยส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีอยู่สูง ส่งผลให้การส่งออกกลุ่มสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตรขยายตัวได้ดี รวมถึงสินค้าอุตสาหกรรมในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ยังคงฟื้นตัวได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกผ่านแดนในกลุ่มสินค้าดังกล่าวเช่น ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ ขยายตัวสูง

จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า การค้าขายทางชายแดนและผ่านแดนมีการขยายตัวจากความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคในต่างประเทศและการส่งเสริมการส่งออกสินค้าจากทางหน่วยงานราชการ ประกอบกับการให้บริการโลจิสติกส์ของประเทศไทยมีความพัฒนาและครบคันเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการของไทยไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางรถยนต์ ทางรถไฟ ทางเรือ และทางอากาศ เป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขยายกิจการไปยังกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจในบทความนี้ขอนำเสนอ 5 เทคนิคที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการติดอาวุธเตรียมความพร้อมในการค้าขายทางชายแดน

เทคนิคติดอาวุธผู้ประกอบการเสริมธุรกิจจากการค้าระหว่างประเทศ

  1. การจัดเตรียมเอกสารสำหรับดำเนินพิธีการศุลกากร และการติดต่อประสานงานกับกรมศุลกากร
    ในการส่งออกสินค้าระหว่างประเทศขั้นตอนในการจัดเตรียมเอกสารมีรายละเอียด มีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น ใบขนสินค้า ใบอนุญาต หรือเอกสารทางศุลกากรต่าง ๆ และการประสานงานในการดำเนินการกับทางศุลกากรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย การติดต่อกับหน่วยงานราชการซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องเตรียมความพร้อมหรือมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญสำหรับการให้คำปรึกษา เพื่อให้การดำเนินการค้าข้ามแดนราบรื่นจนจบกระบวนการ
  2. ผู้ให้บริการขนส่งที่รองรับสินค้าได้ทุกประเภทและมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
    การเลือกผู้ให้บริการขนส่งมีผลต่อการบริหารต้นทุนในการดำเนินงานและการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้า บริษัทขนส่งที่มีรถครบทุกประเภท ให้บริการบรรทุกสินค้าได้ทุกชนิดจะช่วยให้การขนส่งของคุณมีความยืดหยุ่นและรักษาความปลอดภัยให้กับสินค้า นอกจากนี้สิ่งที่รถขนส่งต้องมีคือ ใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายทั้งในประเทศไทยและประเทศปลายทางที่อนุญาตให้รถขนสินค้าวิ่งข้ามไปในประเทศนั้น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสินค้าของคุณจะถูกขนส่งอย่างปลอดภัยและได้รับการรับรองตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งสองประเทศ
  3. การเลือกเส้นทางและพันธมิตรที่เหมาะสม
    การเลือกเส้นทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อลดระยะเวลาในการขนส่งและค่าใช้จ่าย รวมถึงประเภทการขนส่งเช่น การขนส่งทางรถยนต์หรือการขนส่งทางรถไฟโดยคำนึงถึงความเหมาะสมกับสินค้าและระยะเวลาในการขนส่ง และนอกจากนี้การเลือกพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจข้ามชายแดน ที่มีการให้บริการครอบคลุมถึงประเทศปลายทางจะช่วยให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะในแต่ละประเทศมีกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับที่แตกต่างกัน เส้นทางการขนส่งที่แตกต่างกัน ดังนั้นหากมีพันธมิตรท้องถิ่นจะทำให้การจัดส่งสินค้าไม่มีสะดุด ส่งมอบสินค้าถึงลูกค้าอย่างปลอดภัย
  4. การเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจ
    ติดตามเทรนด์ต่าง ๆ เทคโนโลยีที่สามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจไม่ว่าจะเป็นทางด้านการขาย การรับคำสั่งซื้อ ช่องทางการขายเพื่อช่วยให้เข้าถึงลูกค้ามากขึ้นเช่น ทางออนไลน์ รูปแบบการรับการชำระเงิน การนำเทคโนโลยีมาต่อยอดในกระบวนการผลิตช่วยลดต้นทุนสินค้าจากการใช้แรงงาน หรือการผลิตที่ช่วยยืดอายุสินค้าเนื่องจากการค้าทางชายแดนมีระยะเวลาในการจัดส่งมากกว่าการขนส่งภายในประเทศ รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในกระบวนการขนส่งสินค้าสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความซับซ้อนเช่น การใช้ระบบติดตามสินค้าแบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถช่วยให้การส่งออกผ่านทางชายแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายให้กับลูกค้า
  5. เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่มีความเชี่ยวชาญ
    ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในด้านโลจิสติกส์มีประสบการณ์ในการให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนการส่งออก การเลือกช่องทางการขนส่งที่เหมาะสม การจัดทำเอกสาร การดำเนินการพิธีการศุลกากร การขนส่งสินค้า พร้อมจะให้คำแนะนำและการสนับสนุนตลอดการให้บริการ จนถึงการติดตามและรายงานสถานะของสินค้าของคุณอย่างต่อเนื่อง
  6. บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจาก BETTER FREIGHT & TRANSPORT
  7. สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาบริการด้านโลจิสติกส์ที่จะมาต่อยอดธุรกิจการขายสินค้า
  8. ระหว่างประเทศBETTER FREIGHT & TRANSPORT ผู้ให้บริการด้านการนำเข้าและส่งออกอย่างครบวงจร
  9. ด้วยรูปแบบการขนส่งที่ครบวงจร ทั้งการขนส่งทางเรือ ทางเครื่องบิน ทางรถไฟไปยังสถานีปลายทางในไทย ข้ามแดนไปลาวจนถึงเมืองคุนหมิง ประเทศจีน และทางรถยนต์
  10. บริการขนส่งข้ามแดนกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม รวมไปถึงจีน ทั้งสินค้าทั่วไป สินค้าควบคุมอุณหภูมิ สินค้าเคมีภัณฑ์ วัตถุอันตราย และสินค้ากลุ่มรถยนต์
  11. อำนวยความสะดวกในการดำเนินพิธีการศุลกากร ทั้งยังให้คำปรึกษาแนะนำเรื่องสิทธิประโยชน์แก่ผู้นำเข้าส่งออก โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน
  12. เพิ่มความรวดเร็วและคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก ด้วยบริการจัดทำเอกสาร Shipping Document และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ พร้อมการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้ามาช่วยลดต้นทุน เวลา และความผิดพลาดในการออกเอกสารให้แก่ผู้ประกอบการอีกด้วย
  13. มีเครือข่ายคู่ธุรกิจที่ครอบคลุมในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม รวมไปถึงมาเลเซีย และจีน

ที่มา :
www.bangkokbiznews.com